วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ข้อมูล bugatti veyron





ความสุดยอดของ Bugatti Veyron 16.4 Super Sport ไม่เพียงตื่นตะลึงด้วยตัวเลขแรงม้าที่ราวกับยกฟาร์มม้าโชคชัยฟาร์มมาทั้งคอกด้วยตัวเลข 1,200 แรงม้า (HP) แต่มันยังสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลกด้วยการจดบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊คแล้วว่าเป็นรถที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลกถึง 268 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 431 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


นานเท่าไรแล้วที่วงการกินเนสบุ๊คซึ่งเป็นสารานุกรมที่จดบันทึกความสุดยอดต่าง ๆ นานาทั่วโลกไม่ได้มาป้วนเปี้ยนกับวงการรถยนต์จนถึงปัจจุบัน คงเป็นเพราะวงการรถยนต์ยังไม่มีใครสามารถทำลายสถิติน่าตื่นตาตื่นใจไว้ได้ หรือหากคิดในมุมกลับคือบริษัทรถหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการคงจะเสียเวลาในการคำนวณทางวิศวกรรมเพื่อให้ตนเองมีชื่อและข้อมูลอยู่ในหนังสือเล่มหนาเพียงไม่กี่บรรทัด สู้เอาเวลาไปทำรถให้ขายดีต่อจะดีกว่า

แต่สำหรับรถยนต์บางรุ่นมันเกิดมาเพื่อจะเป็นสุดยอดอยู่แล้ว ไหน ๆ ก็ไหนก็พยายามเค้นศักยภาพของรถคันนั้นให้เด่นจนสามารถบันทึกในกินเนสบุ๊คไปเลยจะดีกว่า


รถรุ่นที่ว่านั้นก็คือ Bugatti Veyron 16.4 Super Sport ที่มีคอกม้าอยู่ 1,200 ตัว (HP) แค่คิดก็อย่าริอหังการ์สู้กับมัน แต่อย่างว่าของดีจะเก็บเอาไว้เชยชมคนเดียวกันทำไมดังนั้น Volkswagen Group บริษัทแม่จึงจัดการเป็นพ่อสื่อเชิญเหล่าคณะกรรมการจากกินเนสบุ๊คและหน่วยงานตรวจสอบทางเทคนิคประจำเยอรมันหรือ TUV ร่วมเป็นศักขีพยานในการทำลายสถิติรถยนต์ที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก

ผู้ขับขี่รถทำลายสถิติเจ้าโลกนี้ก็คือ Mr. Pierre Henri Raphanel ซึ่งต้องสวมชุดพร้อมเตรียมตะบึงฮ้อให้พร้อมรับกับความแรงม้าทั้งคอกให้ได้บนสนาม Proving Ground ของ Volkswagen บริเวณ Ehra-Lessien ใกล้ ๆ สำนักงานใหญ่ของ Volkswagen

Bugatti Veyron 16.4 Super Sport สามารถทำเวลาได้ดีที่สุด 2 ครั้งด้วยความเร็วสูงสุด 427 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อสมัยเคยทดลองวิ่งกัน และ 431 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับการจับเวลาโดยคณะกรรมการจาก TUV จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า Bugatti ประสบความสำเร็จในการบันทึกกินเนสบุ๊คจนได้


ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ 16 สูบ ความจุกระบอกสูบ 8 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่มีม้าถึง 1,200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 151.5 กิโลกรัมเมตร ด้วยความแรงระดับนี้ทำให้ Bugatti ถึงขนาดต้องจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 415 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เชื่อเถอะว่ามีพวกฝรั่งสมองใสคอยปลดล๊อกความเร็วนี้ได้อยู่ดี

สรุปกินเนสบุ๊คมีเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ลงเสียทีครับ

ข้อมูล lamborghini aventador


Lamborghini Aventador LP700-4 กระทิงเปลี่ยวลำใหม่ หัวใจ 12 สูบ

ข้อมูลทั่วไป
เริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆสำหรับ ข้อมุลบินตรงจากงานเจนีวา ที่ล่าสุดเป็นทีของค่ายรถยนต์สปอร์ตลำงามระดับโลกในระดับซุเปอร์คาร์สายพันธุ์กระทิงที่ครั้งนี้เอาใจคอสปอร์ตพันธุ์แรงด้วยรถรุ่นใหม่ ในชื่อ aventador ที่ครองรหัส LP700-4 ที่น่าสนใจมาก หากคุณพอที่จะมีบุญวาสนา
ค่าย แลมโบกินี่เปิดตัว ซุปเปอร์คาร์ลำใหม่ของค่ายภายใต้ Aventador อย่างเป้นทางการบนเวทีที่เจนีวา หลังก่อนหน้านี้ค่ายรถยนต์ดังกล่าวเปิดเผยข้อมูลบางส่วนออกมาและแน่นอนมันน่าสนใจสำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบรถแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถของค่ายรถยนต์รายนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
Lamborghini Aventador LP700-4
เรืองร่างของ Aventador ในรหัส LP700-4 นั้น คงยังคงพกรูปร่างทรวงทรงที่น่าหลงและถ้ามองผิวเผินมันอาจจะคล้ายกับ Revento n แต่มีขนาดใหญ่กว่า ที่ลงตัวด้วยความกว้าง 2030 มม. ยาว 4780 ม.ม. สูงเพียง 1136 มม.
ที่ยังคงเอกลักษณ์เครื่องยนต์วางกลาง แล้วลงตัวด้วยเส้นสายการออกแบบที่เน้นสร้างความโฉบเฉี่ยวและดุดันไปพร้อมกัน ในขณะที่ เบื้องล่างลงตัวด้วยล้อขอบ 19 นิ้ว พร้อมยาง 255/35 ในขณะที่ด้านหลังใหญ่กว่าเล็กน้อยกับขอบ 20 นิ้ว ที่ลงตัวพร้อมยาง 335/30
Lamborghini Aventador LP700-4
Lamborghini Aventador LP700-4
จุดเด่นในรถประเภทนี้แน่นอนที่เราจะอดเล่าไม่ได้คือขุมพลังขับเคลื่อนที่ค่ายกระทิงดุนี้ตัดสินใจยัดขุมพลังบล็อกใหญ่กล้ามโตเป็นพิเศษกับเครื่องยนต์ V12 รุ่นใหม่ ที่รีดแรงม้าเน้นจากขุมพลังตัวนี้มากถึง 700 แรงม้า ส่วนแรงบิดก็ดีขึ้นเช่นกันมากถึง 690 นิวตันเมตร ที่ตอบสนองดีกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30 กิโลวัตต์และ 30 นิวตันเมตร
Lamborghini Aventador LP700-4
กำลังทั้งหมดจะถูกขับผ่านชุดเกียร์ ISR (Inipendent Shifting Rod) 7 สปีด ที่พร้อมพาเจ้ากระทิงเปลี่ยวที่ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคันภายใต้การร่วมมือกับค่ายวิศวกรรมการบินยักษ์ใหญ่อย่างโบอิ้ง พุ่งทะยานอย่างรวดเร็วด้วยอัตรา 0-100 กม/ชม ใน 2.9 วินาที ในขณะที่ความเร็วปลายถ้ากล้าก็ไปได้ไวปานสายฟ้าถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ควบคุมด้วยการทำงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถเลือกขับได้ 3 โหมด คือ สปอร์ต ,คอมฟอร์ทและสนามแข่ง
Lamborghini Aventador LP700-4
ด้านความปลอดภัยก็มั่นใจได้ โดยเฉพาะ ระบบเบรคที่งานนี้จัดมาให้ชุดใหญ่ที่พร้อมสยบฝูงม้า 700 ตัว ด้วยขานเบรขนาดใหญ่ 16 นิว้ พร้อมคาลิปเปอร์เบรค 6 พอท ทางด้านหน้า ส่วนด้านหลังจานเบรคขนาด 15 นิ้ว พร้อม คาลิปเปอร์ 4 พอท เอาอยู่ได้อย่างง่ายดายหายห่วง
Lamborghini Aventador เป็นรถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่ทุบสถิติหลายๆอย่างที่ค่ายกระทิงดุเคยสร้างไว้ โดยเฉพาะในรุ่น Mucielago ที่เคยเป็นรถที่หลายคนหมายปอง โดยเฉพาะตัวถังที่ใหญ่กว่าและอัตราเร่งที่น่าประทับใจกว่าถึง 0.3 วินาที ที่ราคาค่าตัวของมันนั้นก็ไม่น้อยหน้า เพราะถ้าคุณสนใจ Lamborghini ขอเสนอขาย aventador ในราคา 379,700 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 12.15ล้านบาท ..ไม่รวมภาษีนำเข้าและมูลค่าเพิ่ม

Sanook! Auto Comment

สวยงามอย่ามากเลยจริง และแม้นี่จะไม่ใช่รถที่ใครก้มีโอกาสเป็นเจ้าของ แต่เพียงแค่คิด 0-100 ใน 2.9 วินาที และความเร้วปลาย 350 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง คงไม่ต้องถามว่ารถรุ่นนี้น่าสนใจมากขนาดไหน


ข้อมูล cbr1000rr

Honda CBR1000ข้อมูลของ 2008 HONDA CBR 1000RR

2008 เปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่อีกเช่นเคย รีดน้ำหนักลงไปได้อีก 2.5 กก. เฟรมใหม่ บอดี้ใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ ท่อไอเสียแบบมีวาล์วควบคุมด้วย ECU ยัดไว้ข้างใน ปลายเป็นไทเทเนียมสั้นกุดสไตล์ MotoGP กับหน้างองุ้มคล้ายๆดูคาติ ดูให้สวยได้ยากแฮะ

เครื่องยนต์ลูกใหม่ขยายขนาดลูกสูบออกไปอีก 1 มม.แต่เป็นลูกสูบฟอร์จรุ่นใหม่เคลือบโมลิบดีนัมที่เบากว่าเดิม ลดระยะชัก วาล์วไทเทเนียมทางฟากไอดีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 30.5 มม. วาล์วไอเสียขนาด 24 มม. บล็อกเครื่องใหม่ที่ย้ายเซ็นเซอร์จับตำแหน่งองศาเพลาต่างๆมาไว้ตรงกลาง ช่วยลดขนาดให้แคบลง เบาลง Clutch Slipper ออกแบบให้ทำงานดีกว่าเดิมโดยใช้ระบบ Center-cam แทนที่แบบร่องสไลด์เฉียงแบบเก่า ทำให้ได้ระยะแยกคลัทช์มากกว่าเดิมและทำงานละเอียดขึ้น แบตเตอรี่แบบใหม่ที่จ่ายไฟเท่าเดิมแต่ขนาดเล็กกว่าเดิม เฉพาะแบตใหม่นี่เบาลงไปถึง 1 กก.เชียวล่ะ

กล่อง ECU ใหม่ที่เล็กและเบากว่าเดิม ควบคุมการจำกัดกำลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่าเดิม, Idle-air control valve (IACV) ตัวใหม่ที่ควบคุมการทำงานจากเดินเบาจนถึงรอบต่ำได้เนียน ช่วยลดอาการกระชากเวลาออกตัวช้าๆแบบเวลารถติด หม้อน้ำแบบใหม่กับพัดลมไฟฟ้าอีกสองตัว ลดอาการไข้สูงตัวร้อนจัดได้ดี
สวิงอาร์มแบบ Gull wing หลบท่อไอเสียและเสริมแนวรับแรง น้ำหนักเบากว่าแบบ Bridge Type อย่างที่เคยใช้


ล้อแม็กรุ่นใหม่ เบากว่าเดิม 550 กรัม จุดยึดเบรคแบบเรเดียลเมานท์ที่ออกแบบใหม่ให้เบาลงกว่าเดิม และจานเบรคแบบ 6 หมุดซึ่งก็เบากว่าเดิมอีกเช่นกัน คราวนี้รีดน้ำหนักกันทุกส่วน แม้แต่ขาตั้งอลูมิเนียมก็ไม่เว้น
ขยับท่านั่งใหม่ เบาะขยับไปข้างหน้าอีก 10 มม. ลดระดับลง 10 มม. แฮนด์สูงขึ้น 6.5 มม. และเขยิบไปข้างหน้าอีก 2 มม. กันสะบัดอิเลคทรอนิคส์ตัวใหม่ เล็กกว่า เบากว่า ทำงานได้เรียบลื่นดีกว่า
ไฟหน้าสี่ดวงแบบ Multi Reflector ใช้กับหลอด H7 และท่อแรมแอร์คู่อัดลมเข้ากรองอากาศขนาด 9.7 ลิตร
ไฟท้าย LED แบบพร้อมถอดเก็บลงสนาม

เรือนไมล์ตัวใหม่เล็กกว่าเบากว่าอีกแล้ว จอ LCD ที่บอกความเร็ว, ระยะทางรวม, ทริปมิเตอร์อีกสองชุด, อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, นาฬิกา, อัตราการกินน้ำมันปัจจุบัน และอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ย ส่วงนด้านบนของมาตรวัดเป็นชิฟท์ไลท์

Specification
เครื่องยนต์ - 999cc DOHC 16V สี่สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ
กระบอกสูบxช่วงชัก - 76 x 55.1 mm.
อัตราส่วนกำลังอัด - 12.3:1
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง - Dual Stage Fuel Injection (DSFI) ท่อไอดีขนาด 40 มม. หัวฉีดเด็นโซ่ 12 รู สูบละสองหัว
ระบบจุดระเบิด - Computer-controlled digital transistorized with 3D mapping, หัวเทียน Iridium
ระบบส่งกำลัง - เกียร์ close-ratio 6 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วยโซ่ เบอร์ 530 O-ring-sealed
ระบบกันสะเทือนหน้า - Telescopic USD 43mm HMAS cartridge fork สามารถปรับค่า spring-preload, rebound และ compression ระยะยุบ 120 มม.
ระบบกันสะเทือนหลัง - ช็อคอับเดี่ยวระบบ Pro-Link HMAS สามารถปรับค่า spring-preload, rebound และ compression-damping ระยะยุบ 134.5 มม.
เบรคหน้า - ดิสค์เบรคจานคู่ขนาด 320mm คาลิเปอร์แบบเรเดียลเมานท์ 4 ลูกสูบ
เบรคหลัง - ดิสค์เบรคจานเดี่ยวขนาด 220mm คาลิเปอร์แบบลูกสูบเดียว
ยาง - หน้า 120/70ZR-17 radial, หลัง 190/50ZR-17 radial
มุม Rake - 23.3 องศา
ระยะ Trail - 96.2 mm.
ระยะฐานล้อ - 1407 mm.
ความสูงถึงเบาะ - 810 mm.
น้ำหนัก - 172.5 kg.
ถังน้ำมัน - 17.8 litres, สำรอง 4 litres

ที่มา/ข้อมูล/บทความ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=gsxr-club&group=3

ข้อมูล ninja 650


เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 649 ซีซี. 4 จังหวะ 8 วาล์ว DOHC หัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงบิดที่สูงขึ้นในรอบต่ำถึงปานกลาง อัตราเร่งที่รวดเร็วให้การตอบสนองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไฟหน้าคู่แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ดีไซน์ใหม่ เช่นเดียวกับรถซูเปอร์สปอร์ตนินจา ทำให้ Ninja650R ดูสปอร์ตและดุดันมากขึ้น

เพิ่มคุณภาพฟองน้ำและความหนามากขึ้น ให้เบาะนั่งนุ่มและสะดวกสบายมากขึ้น ดีไซน์เบาะนั่งช่วงหน้าแคบลงช่วยให้ผู้ขับขี่วางเท้าลงพื้นดินได้ง่ายขึ้น

กระบังลมใหม่ปรับได้ 3 ระดับ( 60 มม.) ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งและองศาที่ป้องกันแรงลมปะทะศรีษะได้อยางดี

ระบบประมวลผลที่พัฒนาเพื่อการควบคุมที่แม่นยำมากขึ้น กล่อง ABS ที่เล็กลงประหยัดพื้นที่ติดตั้ง ให้สามารถดีไซน์เบาะนั่งเพื่อการวางเท้าที่พื้นได้ง่ายยิ่งขึ้น

ท่อไอเสียออกแบบโครงสร้างภายในใหม่ช่วยเครื่องยนต์มีแรงบิดที่เพิ่มขึ้น ติดตั้งใต้เครื่องยนต์ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ให้การควบคุมและการขับขี่ที่ง่ายยิ่งขึ้น ระบบไอเสียผ่านค่ามาตรฐานระดับ 6 พร้อมดีไซน์เพื่อรองรับข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต

โครงสร้างตัวถังแบบท่อคู่ออกแบบใหม่ในสไตล์แบคโบน ดีไซน์ที่แตกต่าง, เรียบง่าย น้ำหนักเบา พร้อมสวิงอาร์มใหม่แบบท่อคู่ ที่ปรับตั้งระบบกันสะเทือนเข้ากับเฟรมได้อย่างสมบูรณ์ ให้การควบคุมง่ายและมั่นคงยิ่ง

มาตรวัดดีไซน์ใหม่ที่แสดงผลทั้งแบบอะนาล็อคและดิจิตอลพ้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานครบ แม่นยำ อ่านง่าย ชัดเจน มาพร้อมกับฟังชั่นใหม่บนแผงเรือนไมล์ ที่จะบอกค่าระยะทางที่ขับขี่ได้จากปริมาณเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ และอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

ฝาครอบท้ายเบาะสั้นลงอีก 10 มม. ช่วยให้ท้ายรถมีขนาดที่กะทัดรัดและดูสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED ที่เพรียวและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
ราคาขายปลีกแนะนำ 291,000 บาท ( รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %)
เครื่องยนต์4 จังหวะ: 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ649 ซีซี
ระบบวาล์วDOHC 8 วาล์ว
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก83 x 60 มม.
อัตราส่วนการอัด10.8 :1
ระบบเกียร์6 เกียร์
ระบบจุดระเบิดDigital CDI
ระบบจ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีด : Ø38 มม. x 2 (Keihin)
ระบบสตาร์ทสตาร์ทไฟฟ้า
ระบบคลัชคลัชมือ
ขนาดยางหน้า120/70ZR17M/C (58W)
ขนาดยางหลัง160/60ZR17M/C (69W)
โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิค ขนาด 41 มม.
โช๊คอัพหลังโช้คอัพหลังเดี่ยวแนวนอน
เบรคหน้าดิสก์เบรคคู่ ขนาด 300 มม. พร้อมระบบ ABS
เบรคหลังดิสก์เบรค ขนาด 220 มม.พร้อมระบบ ABS
ยาว x กว้าง x สูง2,100 มม. x 770 มม. x 1,180 มม.
ระยะฐานล้อ1,410 มม.
ความสูงใต้ท้องรถ130 มม.
ความสูงเบาะ805 มม.
น้ำหนักรถ211 กก.
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง16 ลิตร